ก่อนอื่นเราไปดูก่อนว่าหูอื้อ คืออะไร ซึ่งหูอื้อ คือ บางเคสของอาการหูอื้อก็ไม่เป็นอันตราย แต่บางเคสก็อาจบอกใบ้ได้ว่าเรามีโรคภัยน่ากลัวซ่อนอยู่ โดยสาเหตุของอาการหูอื้อ อาจมีได้ ดังนี้ หูอื้อจากไข้หวัด โดยอาจเกิดจากท่อยูสเตเชียน ที่อยู่ระหว่างหูชั้นกลางกับบริเวณลำคอด้านหลังโพรงจมูก ซึ่งมีหน้าที่ปรับความดันภายในหูชั้นกลางกับบรรยากาศภายนอกทำงานผิดปกติไป ก่อให้เกิดอาการหูอื้อ หรืออาจเกิดจากหูชั้นกลางติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียจากหวัดจนอักเสบ ทำให้หูอื้อได้เช่นกัน

วิธีแก้หูอื้อเบื้องต้น บีบจมูก กลืนน้ำลาย ในเคสที่หูอื้อเพราะดำน้ำหรือขึ้นเครื่องบิน ซึ่งอาการเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ เราสามารถแก้อาการหูอื้อได้ง่าย ๆ ด้วยการทำ Toynbee Maneuver คือ บีบจมูกทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง จากนั้นเอามือที่บีบจมูกออก แล้วกลืนน้ำลายอีก 1 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้ท่อยูสเตเชียนเปิดและปิด แก้อาการหูอื้อได้นั่นเอง

รวมเทคนิคเคล็ดไม่ลับการจัดการกับปัญหาหูอื้อที่เราไม่ควรมองข้าม

  • เทคนิคเคล็ดไม่ลับการจัดการกับปัญหาหูอื้อที่เราไม่ควรมองข้าม คือ กำจัดขี้หู อาการหูอื้อบางครั้งอาจเกิดจากการมีขี้หูอุดตัน ดังนั้นการกำจัดขี้หูออกจึงเป็นวิธีแก้หูอื้ออีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ สำหรับคนที่มีอาการหูอื้อ ขอให้หลีกเลี่ยงการแคะหูด้วยตัวเอง แต่ให้พบแพทย์เพื่อทำการกำจัดขี้หูออกให้ ซึ่งจะปลอดภัยและช่วยแก้หูอื้อได้มากกว่า รวมทั้งยังเป็นการไปหาสาเหตุของอาการหูอื้อที่ถูกต้องและตรงจุด ซึ่งจะช่วยแก้หูอื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เทคนิคเคล็ดไม่ลับการจัดการกับปัญหาหูอื้อที่เราไม่ควรมองข้าม คือ เอียงศีรษะเพื่อเอาน้ำในหูออก ถ้ารู้สึกเหมือนน้ำเข้าหูและทำให้หูอื้อ ควรเอียงศีรษะข้างที่มีน้ำเข้าหูลงต่ำ ดึงใบหูให้กางออกและเฉียงไปทางด้านหลัง ซึ่งจะทำให้ใบหูราบตรง ต่างจากลักษณะปกติที่ใบหูจะเป็นรูปตัว S คราวนี้น้ำก็จะไหลออกจากหูได้สะดวก และส่วนมากก็จะพาเอาอาการหูอื้อหายไปด้วย ทว่าหากใครยังหูอื้ออยู่ เคสนี้ต้องขอให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางแล้วล่ะค่ะ

และเทคนิคเคล็ดไม่ลับการจัดการกับปัญหาหูอื้อที่เราไม่ควรมองข้าม ข้อสุดท้าย คือ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประสาทหูที่เสื่อมเฉียบพลันก็ต้องการการฟื้นฟูเหมือนอวัยวะอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้นคนที่หูอื้อไม่ยอมหาย ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของตัวเองบ้างก็ดี โดยพยายามนอนก่อน 4 ทุ่ม หรือพักผ่อนไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน